การตัดแว่นสายตาให้ดีสักคู่หนึ่งที่ใส่แล้วรู้สึกสบายตาและเหมาะสมกับการใช้งานของเราจริงๆ มีหลายปัจจัยให้เราต้องคำนึงถึง วันนี้หมอเลยนำ 8 เรื่องที่ต้องรู้ก่อนวัดสายตาตัดแว่น เราต้องรู้อะไรบ้าง?เพื่อที่จะได้แว่นสายตาที่เหมาะสมกับเรา สามารถใส่ได้อย่างดี ไม่เสียเงินไปฟรีๆ มาฝากทุกท่านค่ะ
เลือกอ่านตามหัวข้อที่สนใจได้เลยค่ะ
- สิ่งที่เราต้องเตรียมตัวก่อนไปวัดสายตา
- 1. หยิบแว่นคู่เดิมติดมือไปร้านเสมอ
- 2. ถอดคอนแทคเลนส์ก่อนไปวัดสายตา
- 3.เลือกเลนส์ให้เหมาะสมกับการใช้งาน
- 4.ไม่วัดสายตาด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์เพียงอย่างเดียว
- 5.ต้องวัดค่า PD เสมอ
- 6.ต้องได้ทดลองใส่แว่นเดินเมื่อวัดสายตาเสร็จเรียบร้อยแล้ว
- 7.ถ้าเป็นเลนส์โปรเกรสซีฟ ต้องวัดค่าพารามิเตอร์เพิ่มเข้าไปด้วย
- 8. ต้องได้ใส่เลนส์ทดลองโปรเกรสซีฟก่อนตัดเสมอ
- สรุป
8 เรื่องต้องรู้ก่อนตัดแว่นสายตา
หมอมัทรวบรวมข้อมูลสำคัญที่ต้องรู้ก่อนตัดแว่น เพื่อให้แว่นคู่ใหม่ที่เราตัดมามองเห็นได้ดีที่ที่สุดค่ะ หมอสรุปย่อยเป็น 8 ข้อง่ายๆแบบวิดีโอให้แล้วค่ะ
1. ตัดแว่นสายตา หยิบแว่นคู่เดิมติดมือไปร้านเสมอ
ก่อนไปตัดแว่นสายตา ถ้าเป็นคนที่ใส่แว่นอยู่แล้วหรือมีแว่นตาอยู่ที่บ้านหลายคู่ ควรจะหยิบแว่นคู่เดิมที่มีไปให้ที่ร้านแว่นตาให้หมดค่ะ โดยเฉพาะตัดแว่นโปรเกรสซีฟ
เนื่องจากร้านแว่นจะชอบดูแว่นเก่าของเรา อยากรู้ว่าแว่นเดิมมีค่าสายตาเท่าไร เพราะส่วนใหญ่แล้วลูกค้าบางท่านมีอาการใส่แว่นเดิมแล้วเห็นไม่ชัด หรือชัดบางไม่ชัดบ้าง สงสัยว่ามีค่าสายตาเปลี่ยนแน่เลย จึงจะไปวัดสายตาและตัดแว่นตาใหม่ที่ร้านแว่น หากวัดสายตาใหม่แล้วค่าสายตาเท่ากับแว่นเดิมแปลว่าปัญหาไม่ได้อยู่ที่ค่าสายตา ทางร้านจะได้ทราบได้ค่ะ
หรือบางครั้งปัญหาอาจจะเกิดจากมีอาการตาแห้งหรือมีโรคทางตาบางอย่าง เลยทำให้รู้สึกว่าตามัว ร้านแว่นตาจะได้รู้ว่า อาการที่ลูกค้าเป็นไม่ได้เกิดจากค่าสายตาเปลี่ยนจากแว่นเดิม แต่อาจเกิดจากสุขภาพของดวงตา ทางร้านจะแนะนำพบจักษุแพทย์แทนการวัดสายตาใหม่และเปลี่ยนแว่นตาค่ะ
อีกกรณีหนึ่งก็คือการเป็นไกด์ไลน์ ของการวัดสายตา เช่น จากเดิมแว่นเก่า -150 แต่พอวัดสายตา เพิ่มขึ้นนิดเดียวเป็น -1.75 บางทีทางร้านก็ตัดให้ -150 เท่าเดิมเหมือนแว่นเก่าเรา ก็กลายเป็นว่าเราจะเสียประโยชน์ แทนที่เราจะได้แว่นใหม่ที่มีค่าสายตาที่อัพเดท กลับกลายเป็นได้แว่นใหม่ที่ค่าสายตาเท่าเดิม
2. ถอดคอนแทคเลนส์ก่อนไปตัดแว่นสายตา
ก่อนไปตัดแว่นสายตา ต้องถอดคอนแทคเลนส์ก่อนไปวัดสายตาเสมอ เพราะคอนแทคเลนส์เวลาใส่นานๆ จะไปกดกระจกตาของเรา ทำให้ค่าสายตาเปลี่ยน พอถอดคอนแทคเลนส์ออก รอยที่คอนแทคเลนส์กดกระจกตาจะยังอยู่ ยังไม่หายไปทันที หากถอดคอนแทคเลนส์แล้วไปวัดสายตาเลยทันที จะทำให้ค่าสายตาที่วัดได้เพี้ยนหรือผิดไปได้
วิธีที่ดีที่สุดจึงควรถอดคอนแทคเลนส์ก่อนไปวัดสายตาค่ะโดยตามทฤษฎี ควรถอดประมาณ 7 วัน หรืออย่างน้อย 3 วัน ก่อนมาวัดสายตาเป็นอย่างต่ำค่ะ
3.ตัดแว่นสายตา ต้องเลือกเลนส์ให้เหมาะสมกับการใช้งาน
เราต้องรู้ว่า เราอยากตัดแว่นสายตา เลนส์แบบใดก่อนเลือกกรอบแว่นค่ะ เพราะตัวเลนส์สายตาควรสัมพันธ์กับขนาดของกรอบแว่น
เช่น วัยรุ่นมีค่าสายตาเดียว ก็สามารถใส่กรอบแว่นใหญ่ๆได้ แต่ถ้าเป็นกรอบแว่นสำหรับเลนส์โปรเกรสซีฟ ควรมีขนาดพอดีไม่ใหญ่หรือเล็กเกินไป จึงจำเป็นต้องดูจุดประสงค์ว่าจะตัดแว่นตาแบบไหนก่อน เราถึงจะเลือกทรงแว่นสายตาใส่แล้วดูดี หน้าไม่แก่ และให้เหมาะกับการใช้งานได้ค่ะ
ถ้าต้องการเลนส์ที่สามารถใส่ได้ทั้งในร่มกับออกแดดได้ด้วย ก็สามารถเลือกเป็นแว่นสายตากันแดด
แต่ถ้าหากเราวัดสายตาแล้ว ต้องการแค่แว่นอ่านหนังสือ หรือเอาไว้เล่นคอมพิวเตอร์เฉยๆ ก็สามารถใช้เลนส์มัลติโค๊ตหรือเลนส์บลูบล็อกได้
ถ้าเราต้องการมองเเห็นชัดเวลาขับรถตอนกลางคืน จะทำให้ปลอดภัย เห็นถนนคมชัดมากขึ้นควรเลือกใช้ เลนส์แว่นสำหรับขับรถโดยเฉพาะ
ถ้าหากเป็นเลนส์โปรเกรสซีฟ หมอก็แนะนำว่า ควรเลือกฟังก์ชั่นเลนส์ให้ครบทั้งหมด เช่นเปลี่ยนสีได้ด้วย กันแสงสีน้ำเงินได้ด้วยค่ะ เพราะแว่นโปรเกรสซีฟเป็นแว่นที่ไว้ใส่ติดตาตลอดอยู่แล้ว การเพิ่มฟังก์ชั่นเหล่านี้จึงคุ้มค่ากับการใช้งาน
4.ตัดแว่นสายตา ไม่ควรวัดสายตาด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์เพียงอย่างเดียว
การตัดแว่นสายตาที่ดี ควรได้รับการตรวจวัดสายตาที่ถูกต้อง โดยวัดด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ก่อน แล้วตามด้วยการวัดสายตาอย่างละเอียดด้วยเครื่อง Phoropter ไม่ควรวัดด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์อย่างเดียวเด็ดขาด เพราะ การวัดสายตาด้วยคอมพิวเตอร์อย่างเดียว ไม่ใช่วิธีวัดสายตาที่ถูกต้อง 100 %
เนื่องจาก เครื่องคอมพิวเตอร์ เป็นเพียงการวัดสายตาแค่ไม่กี่วินาที จังหวะนั้นเครื่องอาจจะคำนวนผิดตำแหน่งได้ หรือแม้กระทั่งเราอาจจะขยับตา ทำให้ตำแหน่งที่วัดผิดเพี้ยนไป ดังนั้นค่าสายตาที่วัดได้ จึงอาจจะผิดเพี้ยนไปด้วย
5.ต้องวัดค่า PD เสมอ ก่อนตัดแว่นสายตา
PD (Pupillary Distance) คือระยะห่างระหว่างจุดรูม่านตาของตาทั้งสองข้าง ค่า PD เป็นสิ่งจำเป็นและสำคัญมากๆในการ วัดสายตา ค่า PD จึงมีประโยชน์ในการที่ทำให้รูม่านตาทั้ง 2 ข้างของเรา ตรงกับ Center ของเลนส์ เพื่อให้ภาพคมชัดและสวมใส่สบายตามากที่สุด
ค่า PD เป็นพื้นฐานเบื้องต้นที่ต้องวัดในทุกชนิดเลนส์ของการตัดแว่นสายตา
การวัด PD สามารถวัดได้ 2 แบบ
- วัดด้วยเครื่องวัด PD ดิจิตอล จะละเอียดและแม่นยำ
- วัดด้วยไม้บรรทัดวัด PD บางร้านก็จะใช้ไม้บรรทัดวัด PD แทนได้ค่ะ โดยการเอาไฟฉายส่องแล้วเอาไม้บรรทัดวัด แบบนี้ก็ได้เหมือนกัน แต่ถ้าร้านไหนไม่วัดเลยจะไม่ค่อยแม่นยำเพราะไม่ได้ค่า PD ที่ทำให้ประกอบแว่นตรงกับรูม่านตาของเรา ผู้ใส่ก็จะใส่แว่นไม่สบายตาค่ะ
6.ต้องได้ทดลองใส่แว่นสายตาเดินเมื่อวัดสายตาเสร็จเรียบร้อยแล้ว
การทดลองสวมใส่แว่นลองเดิน ก็เพื่อดูว่า แว่นมองชัดดีไหม ใส่แล้วสบายตารึเปล่า ชัดทั้งระยะไกล และใกล้ไหม ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากๆ เพราะเป็นการลองดูว่าการ วัดสายตา แม่นยำไหม แว่นที่เราจะตัดไป ใส่เดินแล้วปวดหัว เวียนหัว รึเปล่า
เพราะเลนส์ที่ใส่ทดลองเดินนั้น เปรียบเสมือนเลนส์จริงๆ ที่จะตัดให้เรา ถ้าหากเวียนหัวกับแว่นนี้ แสดงว่าแว่นจริงๆจะใส่แล้วปวดหัวไปด้วยค่ะ
7.ถ้าตัดแว่นโปรเกรสซีฟ ต้องวัดค่าพารามิเตอร์เพิ่มเข้าไปด้วย
นอกเหนือจากค่า PD ในแว่นโปรเกรสซีฟนอกจากวัดสายตาแล้วยังต้องมีการวัดความเท ความโค้ง ความห่างของแว่นตา กับดวงตาของเรา ซึ่งค่าเหล่านี้จะมีอุปกรณ์ในการวัดสายตาเพิ่มเติมอีก ทางร้านต้องทำการวัดค่านี้อย่างละเอียด เพื่อที่ผู้ใช้งานจะได้ใส่แว่นตาได้อย่างสบายตาที่สุด มองหาโฟกัสง่าย และใช้เวลาในการปรับตัวกับเลนส์โปรเกรสซีฟน้อยลง
8. ต้องได้ใส่เลนส์ทดลองโปรเกรสซีฟก่อนตัดเสมอ
การใส่เลนส์ทดลองโปรเกรสซีฟเปรียบเมือนการใส่แว่นเสมือนจริงค่ะ ซึ่งเป็นเลนส์ทดลองโปรเกรสซีฟจริงที่ตรงกับค่าสายตาเรา ต้องทดลองประมาณ 10-30 นาที หากว่าเราใส่ได้ไม่มีปัญหา นั่นก็แปลว่า แว่นโปรเกรสซีฟจริงที่เราจะตัดก็ใส่ได้เหมือนกัน และเรายังตัดสินใจเลือกได้ว่าใช้เลนส์โปรเกรสซีฟยี่ห้อไหนดี เพื่อเปรียบเทียบมุมมองภาพและการใช้งานที่เหมาะสมกับเรามากที่สุด
สรุป
8 เรื่องที่ต้องรู้ก่อนวัดสายตาตัดแว่น ที่หมอนำมาฝากด้านบน หากปฎิบัติตามอย่างครบถ้วน หมอรับรองว่าจะได้แว่นสายตาที่ผ่านการ วัดสายตา ที่ถูกต้องแม่นยำ และได้แว่นตาดีๆใส่แล้วสบายตาอย่างแน่นอนค่ะ ดังนั้นอย่าลืมทำให้ครบทุกขึ้นตอนเพื่อผลประโยชน์ของทุกๆท่านนะคะ