ตาแห้งเป็นโรคตาที่ ทุกคนเป็น แต่ไม่เคยมีใครรู้เลยว่าตัวเองเป็นโรคตาแห้ง บางคนอาจจะรู้สึกเคืองตา แสบตา แต่ไม่ได้สนใจหรือใส่ใจอะไร บางคนไม่เคยรู้สึกเลยว่าตัวเองมีอาการอะไร ซึ่งร้อยละ 90 หมอขอบอกว่ามีอาการตาแห้งทุกคนค่ะ
เลือกอ่านตามหัวข้อที่สนใจได้เลยค่ะ
โรคตาแห้ง คือ โรคตาที่น้ำตามาหล่อเลี้ยงดวงตาไม่เพียงพอ ก็เลยทำให้เกิดอาการ แสบตา เคืองตา น้ำตาไหล สู้แสงไม่ได้ บางคนถึงขั้นเป็นมากจนเกิดอาการตาแดงแล้วก็น้ำตาไหลด้วย หรืออาจจะปวดตา ตาพร่ามัวไปได้เลยก็ได้ค่ะ โดยทั้งหมดที่กล่าวมานี้ คืออาการของตาแห้งหมดเลย ซึ่งอาการตาแห้งจะนำไปสู่โรคต่างๆ ที่ตามมาอีกมากมายค่ะ เช่น
- ทำให้เยื่อบุตาขาวอักเสบ
- ทำให้เป็นแผลที่กระจกตาดำ เกิดอาการ ตามัว และอาจจะมองเห็นภาพไม่ชัดได้ในที่สุด
สาเหตุของตาแห้ง เกิดจากอะไร?
เกิดได้หลายสาเหตุค่ะ แต่โดยส่วนใหญ่แล้วเกิดจากจากพฤติกรรม หรือไลฟ์สไตล์ของของคนคนนั้นๆ
1. เกิดจากการเล่นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
ปัจจุบันการใช้งานคอมพิวเตอร์ และมือถือค่อนข้างเยอะ พอเวลาเราจ้องอะไรนานๆ จะทำให้ตาเราไม่ค่อยกระพริบตา พอเรากระพริบตาน้อยลง ตาก็เลยแห้งง่ายขึ้น น้ำตาระเหยมากขึ้น อันนี้ก็เป็นพฤติกรรมหนึ่งที่ทำให้ตาเราแห้ง
2. เกิดจากการใส่คอนแทคเลนส์
การใส่คอนแทคเลนส์ทำให้ตาแห้งมากๆ เหมือนกัน เพราะคอนแทคเลนส์มีค่าอมน้ำอยู่ในตัวคอนแทคเลนส์ เมื่อไรก็ตามที่คอนแทคเลนส์เริ่มแห้ง คอนแทคเลนส์จะดูดน้ำที่หล่อเลี้ยงดวงตาของเราไป ทำให้ตาเราแห้งมากขึ้น
3. เกิดจากการกินยาบางตัว
การกินยาบางตัวก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดตาแห้ง เช่น ยาสเตียรอย ยาคุมกำเนิด หรือยาภูมิแพ้ ผลข้างเคียงของยาก็ส่งผลทำให้เรามีอาการตาแห้งได้
4. เกิดจากลักษณะงานที่ทำ
สภาพแวดล้อมและลักษณะการทำงานของเราก็มีผล เช่น ต้องทำงานอยู่กลางแจ้ง เจอฝุ่นละอองเยอะๆ ก็จะทำให้ ฝุ่นเล็กๆ ไปอุดตันที่ต่อมไขมันที่บริเวณเปลือกตา นี่ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งของอาการตาแห้งได้เช่นเดียวกันค่ะ
วิธีการดูแลรักษาอาการตาแห้ง
1. ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
โดยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้มีการถนอมดวงตามากยิ่งขึ้น เพื่อลดอาการตาแห้งให้ได้มากที่สุด เช่น ถ้าใช้งานคอมพิวเตอร์เยอะ ใช้สายตาเยอะ เราควรจะพักสายตาให้มากขึ้น ซึ่งการพักสายตาก็มีกฏที่จำได้ง่ายๆ เลย คือ 20-20-20 rule
กฏ 20-20-20 rule คือ เมื่อต้องนั่งทำงานเป็นระยะเวลานานๆ ต้องพักสายตาทุกๆ 20 นาที เป็นเวลา 20 วินาที ด้วยการหลับตาหรือลืมตาแล้วมองไปที่ไกลๆ 20 ฟุต ก็จะช่วยให้ดวงตาของเราที่เพ่งมองอยู่ตลอดเวลาผ่อนคลายมากขึ้น จะเกิดกดารกระพริบตาถี่ขึ้น น้ำตาผลิตมากขึ้น ตาเราก็จะแห้งน้อยลง
2. ใส่แว่นตาป้องกัน
เมื่อต้องออกนอกสถานที่ที่เจอฝุ่น ลม แดด เราควรใส่แว่นป้องกัน เช่น แว่นกันแดด หรือแว่นกันลม แต่ถ้าหากเราอยู่หน้าจอคอม ก็ให้ใส่เป็นแว่นกันแสงคอมพิวเตอร์ เพียงเท่านี้ก็จะช่วยทำให้อาการตาแห้งลดน้อยลงได้
3. เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับดวงตา
นอกจากนี้เราก็ต้องหาตัวช่วยทำให้ดวงตาชุ่มชื้น ซึ่งตัวช่วยที่สำคัญ ก็คือน้ำตาเทียมค่ะ ซึ่งการเลือกน้ำตาเทียมก็สำคัญ แต่ละยี่ห้อจะไม่เหมือนกัน เนื่องจากมีความเข้มข้นที่แตกต่างกัน เพราะฉะนั้นจะต้องเลือกน้ำตาเทียมที่มีความเข้มข้นเหมาะสมกับระดับอาการตาแห้งของเราด้วยนะคะ
แต่ถ้าเกิดว่าอาการตาแห้งของเราเป็นมากขึ้น ถึงขั้นตาอักเสบ หรือถึงขั้นเป็นภูมิแพ้ที่ตา เช่น มีอาการตาแดง ปวดตา คันตา เคืองตา ตามัวตลอดเวลา หรือเห็นภาพเบลอ หากเกิดลักษณะนี้ ต้องไปปรึกษาจักษุแพทย์เพื่อให้คุณหมอรักษาต่อไปค่ะ
4. รักษาอาการตาแห้ง
การรักษาอาการตาเหตุต้องรักษาตั้งแต่ต้นเหตุ โดยวิธีการรักษาชื่อว่า Eye Spa ค่ะ
Eye Spa เป็นการรักษาอาการตาแห้งตั้งแต่ต้นเหตุ ด้วยการทำความสะอาดของต่อมไขมันที่เปลือกตา วิธีนี้เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ทำให้อาการตาแห้งดีขึ้นได้ค่ะ
สรุป
ถ้าเรามีอาการตาแห้งแล้วไม่ได้รับการดูแลรักษา อาการตาแห้งเหล่านี้จะรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันของเรา และอาจรวมถึงรบกวนการทำงานของเราด้วย เพราะฉะนั้นมาดูแลสุขภาพดวงตาของเราให้มีสุขภาพที่ดีกันนะคะ