เลนส์โปรเกรสซีฟ ราคา

เลนส์โปรเกรสซีฟ ราคาถูก กับ แพง แตกต่างกันยังไง เลือกแบบไหนจึงจะดีกับเรามากที่สุด

เลนส์โปรเกรสซีฟ ราคา ค่อนข้างกว้าง ตั้งแต่หลักพันจนถึงหลักแสน ที่เป็นแบบนั้นก็เพราะเลนส์โปรเกรสซีฟมีหลากหลายระดับมาก แล้วอะไรเป็นตัวกำหนดว่าเลนส์โปรเกรสซีฟ แต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อ ราคาเท่าไหร่ ราคาถูก กับ แพง แตกต่างกันอย่างไร วันนี้หมอจะพาไปทำความรู้จักให้ละเอียดยิ่งขึ้นค่ะ

เลนส์โปรเกรสซีฟ ราคาเท่าไหร่?

เลนส์โปรเกรสซีฟ ราคามีทั้งหมด 3 ระดับ ดังต่อไปนี้

1. ระดับเริ่มต้น

เลนส์โปรเกรสซีฟระดับเริ่มต้น เป็นเลนส์โปรเกรสซีฟที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีค่าสายตาไม่มาก และเหมาะกับคนที่ไม่ Sensitive กับโครงสร้างของเลนส์โปรเกรสซีฟ โดยมีราคา 8,700 ถึง 15,000 บาท

2. ระดับคุ้มค่า (รุ่นกลาง)

เลนส์โปรเกรสซีฟระดับกลาง เป็นเลนส์โปรเกรสซีฟที่มีมุมมองการใช้งานกว้างขึ้น ใส่สบายและใส่ใช้งานง่าย กว่ารุ่นเริ่มต้น โดยมีราคา 15,000 ถึง 30,000 บาท

3. ระดับพรีเมี่ยม

เลนส์โปรเกรสซีฟรุ่นสูง เป็นเลนส์โปรเกรสซีฟที่มีเทคโนโลยีเพิ่มขึ้นมากมาย ช่วยให้แว่นสวมใส่สบายตา ปรับตัวได้ง่ายมากที่สุด และเป็นเลนส์ที่มีความเฉพาะบุคคล ที่ผลิตมาสำหรับเราโดยเฉพาะ มีราคา 30,000 ขึ้นไป

เลนส์โปรเกรสซีฟราคาถูก กับ แพง มีความแตกต่างกันอย่างไร?

เลนส์โปรเกรสซีฟราคาถูก กับแพง แตกต่างกันที่คุณสมบัติของเลนส์ โครงสร้าง และเทคโนโลยีในการผลิตเลนส์ ดังนี้

1. คุณสมบัติของเลนส์โปรเกรสซีฟ

คุณสมบัติของเลนส์ เราสามารถเลือกเพิ่มเสริมเข้าไปในเลนส์โปรเกรสซีฟที่เราจะเลือกได้ค่ะ เช่น

  • เลือกให้เลนส์มีคุณสมบัติย่อบางขึ้น เพื่อให้เลนส์มีความบางและเบาลง
  • เลือกให้เลนส์กรองแสงเพิ่มขึ้น เช่น กรองแสง UV , กรองแสงสีฟ้า เป็นเลนส์บลูบล็อค หรือ ให้เป็นเลนส์มัลติโค๊ตเปลี่ยนสี หรือ เลนส์ออโต้
  • เลือกให้เป็นแว่นสายตากันแดดได้ คือ เป็นเลนส์โปรเกรสซีฟย้อมสี
  • เลือกให้เลนส์มี Coating ที่แข็งแรงเพิ่มขึ้น เพื่อป้องกันรอยขีดข่วน เป็นต้น

2. โครงสร้างของเลนส์หรือเทคโนโลยีในการผลิตเลนส์

เลนส์โปรเกรสซีฟจะมีโครงสร้างเลนส์และมีเทคโนโลยีในการผลิตเลนส์หลายระดับ ตั้งแต่เทคโนโลยีรุ่นเริ่มต้นไปจนถึงรุ่นสูงสุดในการผลิตเลนส์

ซึ่งแต่ละยี่ห้อเลนส์โปรเกรสซีฟมีเทคโนโลยีสูงสุดที่ใส่ลงไปในตัวเลนส์ ให้เราเลือกใช้ ดังนี้

1. เลนส์โปรเกรสซีฟ Hoya

เลนส์โปรเกรสซีฟราคาสูงสุดของ Hoya ชื่อว่า iD Myself มีเทคโนโลยีทันสมัยในการผลิตเลนส์รุ่นนี้ ได้แก่

1.1 AdaptEase Techonology

ควบคุมภาพบิดเบือนเพื่อเพิ่มพื้นที่การใช้งานเพิ่มขึ้น จะเพิ่มพื้นที่ของมุมมองการมองโซนระยะกลางและใกล้ให้กว้างมากขึ้น โดยที่ไม่กระทบมุมมองภาพของโซนมองระยะไกล จะยังคงความกว้างของโซนมองไกลไว้อยู่ โดยออกแบบจัดการค่าสายตาเอียงที่บริเวณโซนมองระยะกลางและใกล้ ให้เกิดค่าสายตาเอียงต่ำที่สุดเพื่อควบคุมภาพบิดเบือนให้ลดน้อยลง

1.2 3D Binocular Vision

ลดความสั่นไหวด้านข้าง โดยเทคโนโลยีนี้จะช่วยให้เปลี่ยนโฟกัสได้ง่าย และลดภาพสั่นไหวแม้ในขณะที่เราเคลื่อนไหว หรือแม้ในขณะที่เราใช้งานอุปกรณ์ดิจิตอลอยู่

1.3 Binocular Harmonization Technology

ลดอาการเวียนศรีษะจากค่าสายตาไม่เท่ากันช่วยแก้ไขปัญหาการกวาดตาที่ไม่เท่ากันในคนที่มีค่าสายตา 2 ข้างต่างกัน โดยเทคโนโลยี่นี้จะเข้ามาช่วยปรับตำแหน่งของการกวาดตา 

1.4 Integrated Double Surface Design 

การขัดผิวเลนส์ทั้ง 2 ด้าน เป็นเทคโนโลยีลิขสิทธิ์ของ Hoya ที่มีการขัดโครงสร้างบนผิวเลนส์โปรเกรสซีฟทั้ง 2 ด้าน ช่วยให้ลดภาพบิดเบือน และทำให้มองเห็นภาพใกล้เคียงเป็นธรรมชาติมากที่สุด

2. เลนส์โปรเกรสซีฟ Essilor 

โดยรุ่นเลนส์สูงที่สุด ของแบรนด์ Essilor มีชื่อว่า Varilux XR Series มีเทคโนโลยีสูงสุดในการผลิตคือ ER-motion TM Technology ที่ออกแบบโครงสร้างเลนส์ร่วมกับปัญญาประดิษฐ์ (AI)

ที่จะดีไซน์โครงสร้างของเลนส์จากฐานข้อมูลของผู้สวมใส่เลนส์โปรเกรสซีฟมากกว่า 1 ล้านข้อมูล โดยนำข้อมูลการเคลื่อนไหวและพฤติกรรมการมองจากฐานข้อมูลทั้งหมดมาอ้างอิงในการผลิตเลนส์มาออกแบบในรูปแบบดิจิทัลและวิเคราะห์การมองในรูปแบบ 3 มิติ เพื่อนำมาปรับโครงสร้างเลนส์โปรเกรสซีฟ ให้เหมาะสมกับพฤติกรรมการมองของเรา

ให้การมีความลื่นไหลของภาพที่มอง และสามารมองใกล้ได้ดีในขณะที่มีการเคลื่อนไหวตลอดเวลา ให้มองเห็นคมชัดทันทีแม้ในขณะที่มีการเคลื่อนไหว ให้ปรับตัวได้ตั้งแต่วันแรกที่สวมใส่ และให้มุมมองเป็นธรรมชาติจากระยะการมองใกล้ไปจนถึงระยะการมองไกล ที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุงเท่าที่ Essilor มีมา

และยังมีเทคโนโลยีอื่นๆด้วย ได้แก่

  • Xtend ( ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการมองเห็นที่ระยะช่วงแขน ให้คมชัดในโฟกัสเดียว
  • Nanoptix ( ช่วยจำกัดปัญหาภาพบิดเบือน ให้การเคลื่อนไหวมีความสมดุล)
  • และมีเทคโนโลยีอื่นๆ ของรุ่นต่ำลงทั้งหมด

3. เลนส์โปรเกรสซีฟ Nikon

เลนส์โปรเกรสซีฟรุ่นสูงของ Nikon มีชื่อว่า Seemax Ultimate โดยจะมีเทคโนโลยีสูงสุดในการผลิต จากการร่วมมือระหว่างบริษัทเลนส์ Nikon และผู้สวมใส่ ด้วยเทคโนโลยี สูงสุดของเลนส์ คือ “ Insights Technology ”

เป็นเทคโนโลยีผ่านโปรแกรม Sensitivity Technology ซึ่งเป็น Application บน Ipad ที่ทดสอบความไวต่อภาพบิดเบือนของแต่ละบุคคลที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งสามารถนำข้อมูลไปออกแบบโครงสร้างได้ถึง 428,793,740 รูปแบบ เพื่อให้เหมาะสมกับการมองเห็นของแต่ละคน

โดยให้ผู้สวมใส่ได้มีส่วนร่วมในการออกแบบเลนส์โปรเกรสซีฟ ที่เน้นการใช้งานของตนเอง เพื่อให้เห็นภาพได้กว้างขึ้น ได้มุมมองภาพในแบบที่เราอยากเห็นเพราะเราได้ออบแบบเลนส์ตามความต้องการและตามการใช้งานของเราเอง

การออกแบบโครงสร้างเลนส์จะออกแบบให้มีความเป็นเฉพาะบุคคลโดนคำนึงถึงค่าสายตาและค่า Addition ในเลนส์โปรเกรสซีฟของผู้สวมใส่มาค้นหาออกแบบเลนส์ที่เหมาะสมกับผู้สวมใส่มากที่สุด จากการเลือกโครงสร้างเลนส์ที่มีการออกแบบกว่า 40,000 แบบ ให้เลือกใช้

และได้มีการลดภาพบิดเบือนด้านข้างของเลนส์ และลดภาพบิดเบือนที่ยังเหลืออยู่ให้น้อยที่สุด จากการปรับแต่งตามสิ่งที่ผู้สวมใส่จริงมองเห็นผ่านเลนส์

ที่สำคัญเลนส์ Seemax Ultimate สามารถออกแบบโครงสร้างเลนส์โปรเกรสซีฟตามลักษณะความเคยชินของมุมมองการมองเห็นของเรา จากเลนส์โปรเกรสซีฟคู่เดิมและปรับแต่งโครงสร้างเลนส์ให้ดีขึ้นให้เราสามารถปรับตัวเข้ากับเลนส์ SeeMax Ultimate คู่ใหม่นี้ได้ทันที จะช่วยให้เราสามารถปรับตัวได้ ทันที โดยไม่ต้องใช้เวลาในการปรับตัว จากการได้รับมุมมองภาพที่ดีที่สุดตั้งแต่วินาทีแรกที่เห็น เพราะเลนส์ได้ปรับแต่งตามความเคยชินในการมองเห็นของเรา

โดยสรุป เลนส์ Nikon SeeMax Ultimate ผู้สวมใส่จะมีส่วนร่วมในการออกแบบเลนส์ของตนเอง โดยคำนึงถึงปัจจัยทั้ง 3 ข้อ ดังนี้

  1. ความต้องการของตนเอง (ให้เรามองเห็นภาพได้กว้างขึ้น)
  2. ลักษณะการใช้งานของตนเอง (ให้เราได้มองเห็นมุมมองที่เราอยากได้)
  3. ความคุ้นชินในการใช้งาน (ให้เราเปลี่ยนเลนส์โปรเกรสซีฟคู่ใหม่ได้แบบที่เราไม่ต้องกังวลใจ)

และนอกจากนี้ SeeMax Ultimate ยังมีเทคโนโลยีอื่นๆ ของเลนส์โปรเกรสซีฟรุ่นต่ำลงมา ของเลนส์แบรนด์ Nikon ทั้งหมดด้วย ได้แก่

  • Deformation Tuner
  • Binocular Tuner
  • Frame Shape Optimization
  • Softenting Filter
  • Widening Filter
  • Nikon Optical Design Engine Optimization
  • Horizontal Power

4. เลนส์โปรเกรสซีฟ Rodenstock

เลนส์โปรเกรสซีฟรุ่นสูงสุดของ Rodenstock มีชื่อว่า “ Progreesive Impression B.I.G. Exact ” ที่มีเทคโนโลยีสูงสุดในการออกแบบเลนส์โปรเกรสซีฟที่สมบูรณ์แบบที่สุด ของ Rodenstock โดยการนำเทคโนโลยีที่มีความแม่นยำสูงด้วยแบบจำลองดวงตาไบโอเมตริกเฉพาะบุคคลที่ไม่เคยมีมาก่อน จากการใช้ข้อมูลที่ได้จากการวัดด้วยเครื่อง DNEye Scanner และซอฟต์แวร์อัจฉริยะของ Rodenstock

เป็นเครื่องวัดที่มีความแม่นยำสูง ด้วยเครื่อง DNEye Scanner โดยใช้ข้อมูลมากกว่า 7,000 ชุดข้อมูล มีข้อมูลของดวงตาทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น

  • ความโค้งกระจกตา
  • ความหนาของกระจกตา
  • ขนาดของรูม่านตา
  • ความหนาของเลนส์แก้วตา
  • และความยาวของดวงตา

และข้อมูลกว่า 80 พารามิเตอร์ของดวงตา เพื่อนำข้อมูลเหล่านั้นมาจำลองไบโอเมตริกเฉพาะบุคคล ทำให้

  • สามารถผลิตเลนส์ที่มีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น
  • เพิ่มมุมมองภาพให้กว้างขึ้น ทั้งระยะกลางและใกล้
  • ช่วยให้ภาพมีความคมชัดเพิ่มขึ้นถึง 40%
  • และเพิ่มพื้นที่การมองที่โซนระยะไกลให้กว้างขึ้น 8.5 องศา

และมีเทคโนโลยีการออกแบบโครงสร้างเลนส์แบบ Individual Design ที่ผู้สวมใส่สามารถเลือกโครงสร้างเลนส์ได้ทุกระยะของการใช้งาน ทั้งโซนระยะมองไกล กลาง และใกล้ ให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของเราเอง ด้วยความละเอียดในการออกแบบถึง 0.1 mm / step ทำให้ผู้สวมใส่สามารถกำหนดโครงสร้างได้ตามความต้องการของแต่ละบุคคลได้อย่างละเอียดและสมบูรณ์แบบ

นอกจากนี้ยังมีการวัด Individual Parameter ในการคำนวณโครงสร้างเลนส์โปรเกรสซีฟให้มีความเป็นเฉพาะบุคคลจากค่าพารามิเตอร์ของกรอบแว่น ไม่ว่าจะเป็น

  • ค่าความโค้งหน้าแว่น
  • ความเทหน้าแว่น
  • ระยะห่างหน้าแว่น
  • และรวมถึงค่า PD ของดวงตาแต่ละข้าง

การคำนวณโครงสร้างเลนส์ร่วมกับดูตำแหน่งของการสวมใส่แว่นจริงของผู้ใช้งาน ทำให้โครงสร้างเลนส์สมบูรณ์แบบตอบโจทย์กับทุกลักษณะการใช้งานและสามารถเลือกกรอบแว่นได้อย่างอิสระอีกด้วยค่ะ

5. เลนส์โปรเกรสซีฟ Zeiss

เลนส์รุ่นสูงสุดของ Zeiss มีชื่อว่า “ Zeiss SmartLife Progressive Individual ” เป็นเลนส์โปรเกรสซีฟรุ่นที่มีเทคโนโลยีสูงสุด ที่ออกแบบเลนส์โปรเกรสซีฟที่มีความเป็นเฉพาะบุคคล

ที่มีการออกแบบเลนส์ที่เหมาะสำหรับผู้ที่ใช้งานอุปกรณ์ดิจิตอลเป็นหลัก จากงานวิจัยในยุคปัจจุบัน ผู้คนใช้งานอุปกรณ์ดิจิตอลกันมากขึ้น จึงทำการศึกษาจากผู้ที่ใช้งานอุปกรณ์ดิจิตอลโดยตรง และพบว่าผู้ที่เน้นการใช้งานอุปกรณ์ดิจิตอลต้องการพื้นที่บนเลนส์ในมุมมองระยะกลางและใกล้ที่คมชัดขึ้น และอยากให้พื้นที่การมองกว้างขึ้นให้เน้นการใช้งานที่ระยะกลางเป็นพิเศษ ทาง Ziess จึงผลิตเลนส์ออกมาเพื่อตอบโจทย์ผู้คนในยุดดิจิตอลนี้ค่ะ

โดยเทคโนโลยีการผลิตที่มีการขัดแบบ Customized Freeform และมีเทคโนโลยีอื่นๆ ดังนี้

  • Individual Fit Technology ช่วยให้การมองเห็นมีความเป็นธรรมชาติมากที่สุดสำหรับการใช้งานในยุคดิจิตอล
  • FaceFit Technology ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการมองภาพ จากตำแหน่งการสวมใส่แว่นแบบเฉพาะบุคคล
  • Adaptation Control Technology ได้มีการคำนวณ framefit เพื่อช่วยให้เราปรับตัว กับเลนส์ใหม่ได้อย่างรวดเร็ว
  • FrameFit Technology นำขนาดและทรงของกรอบแว่นมาคำนวณโดยสามารถเลือกขนาดของกรอบแว่น และทรงของกรอบแว่นได้อย่างตามใจชอบ ตามไลฟ์สไตล์ของตัวเองได้
  • Digital Inside Technology เพิ่มมุมมองโซนการอ่านหนังสือมากขึ้น โดยเฉพาะโซนการใช้งานอุปกรณ์ดิจิตอล
  • Luminance Design Technology ช่วยให้การมองเห็นเป็นธรรมชาติที่สุดและคมชัดสูงสุดทั้งกลางวันและกลางคืน
  • Smart View Technology ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในยุคสมัยใหม่ ที่เน้นการเคลื่อนไหวเป็นพิเศษ
  • Rx Customization สั่งทำพิเศษเพื่อให้ได้มุมมองที่กว้างที่สุด สำหรับผู้ที่มีค่าสายตาที่แตกต่างกันในแต่ละบุคคล

ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้นอกจากจะเน้นการใช้งานที่ระยะกลางเป็นพิเศษแล้ว ยังช่วยให้การมองเห็นที่มีความลื่นไหลจากการมองโซนระยะใกล้ไปโซนระยะไกลอีกด้วยค่ะ

เลือกเลนส์โปรเกรสซีฟ ราคาไหนดี จึงจะเหมาะกับเรามากที่สุด?

สิ่งสำคัญในการเลือกเลนส์โปรเกรสซีฟ ควรเลือกเลนส์โปรเกรสซีฟรุ่นและยี่ห้อ ที่เราสวมใส่ใช้งานแล้ว

  • สบายตา
  • ใส่ใช้งานง่าย
  • หาโฟกัสง่าย
  • มองเห็นภาพเป็นธรรมชาติ
  • ตอบโจทย์กับความต้องการของเรา
  • ปรับตัวได้ง่าย
  • ในราคาที่เหมาะสมที่เราคิดว่าคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปค่ะ

ดีกว่าเลือกเลนส์โปรเกรสซีฟดูที่ราคาถูกเพียงอย่างเดียว แต่ตัดแว่นมาแล้วอาจใส่ไม่ได้ ก็ถือว่าเสียเงินไปเปล่าประโยชน์ค่ะ

 รู้ได้อย่างไรว่าจะเลือกเลนส์โปรเกรสซีฟ ยี่ห้อไหนดี

เราจะต้องได้รับการ ทดลองเลนส์โปรเกรสซีฟตามค่าสายตาจริง ก่อน เพื่อได้รับประสบการณ์การใช้งาน และการมองเห็นผ่านเลนส์โปรเกรสซีฟ และเปรียบเทียบมุมมองภาพของแต่ละรุ่นและยี่ห้อของเลนส์ เพื่อค้นหาเลนส์โปรเกรสซีฟที่ดีที่สุดสำหรับเรา

สรุป

เลนส์โปรเกรสซีฟ ราคา ถูก กับ แพง แตกต่างกันที่คุณสมบัติของเลนส์ และโครงสร้างของเลนส์โปรเกรสซีฟ โดยเราควรเลือกเลนส์โปรเกรสซีฟที่เราสวมใส่แล้วสบายตา ใส่ใช้งานง่าย ใส่แล้วตอบโจทย์กับความต้องการของเรา และปรับตัวได้ง่าย จากการทดลองใส่เลนส์โปรเกรสซีฟจำลองที่ร้านแว่นก่อน ก่อนตัดสินใจซื้อ เพื่อให้เราได้รับเลนส์โปรเกรสซีฟที่ดีที่สุด และเหมาะสมกับเรามากที่สุด คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป

ที่ Mattaya Vision Center ทุกสาขา เรามีเลนส์ทดลองโปรเกรสซีฟให้ลูกค้าได้ทดลองใส่ใช้งานก่อน ก่อนที่ลูกค้าจะตัดสินใจซื้อ ทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ ทุกระดับ ตามค่าสายตาจริงของเราค่ะ เพื่อให้มั่นใจว่าเลนส์โปรเกรสซีฟที่เลือกไปตอบโจทย์ต่อการใช้ชีวิตได้เป็นอย่างดี